อาชีพเสริมสร้างรายได้" เลี้ยงไก่ชนขายสร้างรายได้เสริม"

อาชีพเสริมสร้างรายได้วันนี้ภูมิใจเสนอ กีฬาพื้นบ้านของไทย ที่สืบทอดเจตนารมห์ จากรุ่นสู่รุ่น ชนเอาบ้านเอาเมืองยังได้เลย อาชีพที่ไม่ควรมองข้าม อาชีพเสริมสร้างรายได้เลี้ยงไก่ชนไทยครับ
มันสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำให้กับผู้เลี้ยงที่เลี้ยงถูกวิธีมานักต่อนักแล้วครับ
เลี้ยงไก่ชนสร้างรายได้ต่อเดือนตั้งแต่หลัก พัน ถึงหลักแสนเลยที่เดียว สนใจไหมครับ
แนะนำวิธีสร้างอาชีพเสริมนี้ให้มั่นคง และไม่ขาดทุน
1.หาพ่อพันธุ์+แม่พันธุ์ จากแหล่งเพาะเลี้ยงไก่ชนที่เก่งๆ ไปคัดดูกับตาดูตัวที่เก่งจริงๆ
2.นำมาเพาะเลี้ยง แล้วเมื่อครบอายุ ได้ประมาณ 7-8 เดือนคัดปล้ำซ้อม ดูตัวที่มีแววดี เข้าตา
3.เมื่อก่อนต้องเอาไปชน นั้นชนนี้ ต้องเป็นแชมป์แต่ปัจจุบันสื่อออนไลน์เข้ามามีบทบาทในวงการไก่ชนเป็นอย่างยิ่ง แนะนำสื่อยอดนิยม เฟสบุคครับ ประกาศขายในเฟสบุคครับแอตเพื่อนๆที่นิยมไก่ชนเหมือนกัน อันนี้เชื่อว่าทุกคนคงมีเฟสบุคกันทุกคนนะครับ ตามประสบกาณ์ขายได้จริง ชัดเจนครับ รายได้ดีงามเลยครับ
เทคนิค อีกอย่างของการคัดไก่มาทำพ่อพันธุ์ครับ หาไก่แก่ที่ปลดระวางของค่ายไก่ชนดังที่กระจายตัวอยู่ทั่วประเทศที่มีผลงานลูกของมัน เป็นการันตี ซื้อเลยครับไม่ต้องคิดมากได้กำไรแน่นอน เพราะอาจมีคนติดตามผลงานของไก่ตัวที่เราซื้อไว้อยู่ ไม่แน่นะครับถ้ามีสมาชิกเพิ่มมากมีแฟนคลับเยอะ เป็นอาชีพหลักได้เลยครับ

ก่อร่างสร้างตัว"อาชีพเสริมสร้างรายได้"

อาชีพเสริมสร้างรายได้ วันนี้ ขอนำเสนอวิธีจูนความคิดใหม่ ก่อนจะทำงานอะไรสักอย่าง!!!

มีคำหนึ่งที่จะเอามายกและแตกประเด็นคือ "คิดก่อนทำ อย่าทำแล้วค่อยคิด"

เช่นเราจะทำงานอะไรสักอย่างหนึ่ง คิดแวปหนึ่งว่ามันจะทำเงินแล้วก็ทำลงไปเลย ไม่ศึกษาว่างานนี้มีผลตอบแทนยังไง ระยะเวลาที่ทำแล้วได้ผลหรือคุ้มค่า คุ้มทุน หรือไม่ นานเท่าไหร่ แล้วสุดท้ายก็ทำไปเลยสักมีทุนมีเงิน ทำลงไป แล้ว......ก็คือไก่อ่อนลงเล่นน้ำไงครับ ขออนุญาติเล่นคำอาจจะแรงไปครับ 

    ฉนั้นก่อนเริ่ม งานหรือธุรกิจอะไร ควรศึกษาให้เข้าใจก่อน  ให้รู้บ้างก่อน ถามผู้เคยทำหรือผู้มีประสบการณ์ยิ่งนี้เป็นภูมิคุ้มกันธุรกิจหรืองานที่จะทำ จากนั้น ค่อยศึกษาว่าทำไปแล้วได้เงินจริงไหม ได้เงินมากไหม คุ้มที่ทำไปไหม ไม่ใช่ลงไป 100 ได้คืนทุมมา 50 อันนี้ไม่ต้องทำ ไม่คุ้ม ทำอะไรมันต้องได้กำไร จะได้น้อยได้มาก มันก็คือกำไร แล้วค่อยมาเพิ่มทุนเพื่อให้ได้ซึ่งกำไร มากขึ้นไปอีก เท่าที่เราต้องการ  เพิ่มประสบการณ์ไปเรื่อยแล้วค่อยเพิ่มทุน ไปอย่างมั่นคง

ขอบคุณครับ การลงทุนมีความเสี่ยง ควรศึกษาให้ดีก่อนลง ทุน!!!
เกร็ดเล็ก เกร็ดน้อยจาก "อาชีพเสริมสร้างรายได้"

ซุ้มกาแฟเล็กๆในอาคาร รายได้ดีหลักแสน

ซุ้มกาแฟเล็กๆในอาคาร ลองถามดู เค้าบอกว่าขายได้เฉลี่ยวันละ 250 แก้ว ราคาแก้วละ 25 บาท ถ้าขายเดือนละ 22 วันก็จะได้เดือนละประมาณ 5,500 แก้ว เป็นยอดเงินประมาณ 137,500 บาท เป็นต้นทุนเท่าไหร่ กำไรเท่าไหร่ผมไม่ทราบนะ แต่ถ้าไม่มีค่าลิขสิทธิ์ ได้ได้กำไรเกินครึ่งสำหรับกาแฟครับ

สมมติ ทำร้านกาแฟขนาดเล็ก สมมติว่าอยู่ในปั๊มน้ำมันละกัน โดยมีต้นทุนดังนี้

- ค่าแฟรนไชส์ ค่าตกแต่งร้าน ฯลฯ 400,000.- ติ๊ต่างว่าสัญญา 5 ปี เท่ากับมีต้นทุนเฉลี่ยแบบปัดเศษเดือนละ 6,500 บาท
- ค่าเช่าสถานที่ตั้งร้าน เดือนละ 2,000 บาท
- ค่าน้ำ ค่าไฟ ประมาณเดือนละ 1,500 บาท



รวมเป็นต้นทุนคงที่เดือนละ 10,000 นึงพอดี นี่ประเมินแบบต่ำๆ นะ

ทีนี้มาดูรายได้ พวกค่าเม็ดกาแฟ ค่านม-น้ำตาล ค่าถ้วย ค่าวัสดุสิ้นเปลืองต่างๆ พวกนี้ผมไม่รู้ตัวเลขหรอก แต่ขอประมาณแบบนี้ละกัน ว่ากาแฟแก้วนึงมีต้นทุนเฉลี่ย 15 บาท ถ้าขายเฉลี่ยแก้วละ 50 บาท จะมีกำไรขั้นต้น 35 บาท สมมติว่าขายได้เฉลี่ยวันละ 30 แก้ว ก็จะมีกำไรขั้นต้นเดือนละ 30,000 บาท (ปัดเศษเช้นกัน)

หักค่าใช้จ่ายแล้วเหลือกำไรก่อนภาษีเดือนละ 20,000 บาท หักภาษี ... ติ๊ต่างอีกว่า 30% เหลือเดือนละ 14,000.- นี่ยังไม่คิดว่าถ้ามีการจ้างลูกจ้างอีกนะ ...

สรุปคือนายนพ ทำร้านกาแฟอย่างถูกต้อง มีการขึ้นทะเบียนการค้า จ่ายภาษี ฯลฯ ทำแทบตาย เหลือเงินใช้เดือนละ 14,000 ..



มาอีกร้านหนึ่ง (สมมติ) ทำอาชีพขายกาแฟรถเข็นข้างทางมั่ง โดยแนน-คามิโอ เลือกทำเลตั้งรถเข็นริมฟุตบาธตรงป้ายรถเมล์ใต้สถานีรถไฟฟ้า คือจะเลือกตรงไหนก็ได้ ไม่ต้องขอเช่าที่ใครอยู่แล้วนี่ กิจการของเธอก็จะมีต้นทุนดังนี้ ...

- รถเข็น ตู้กระจก หม้อต้มน้ำ อุปกรณ์การชงกาแฟต่างๆ คิดราคาเหมาที่ 12,000 บาทละกัน จะได้ลงตัว (จริงๆ ผมว่าไม่เกินหมื่น) สมมติว่าคิดเฉลี่ย 5 ปี ก็เดือนละ 200 บาท
- ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเช่าที่ ไม่เสีย


จากนั้นมาดูรายได้ มาดูรายได้ ร้านกาแฟริมทาง  กันบ้าง
- ค่าวัสดุสิ้นเปลืองต่างๆ ไม่มีข้อมูล แต่ประมาณแบบใกล้เคียงได้ว่า กาแฟแบบใส่ถุง ถุงนึงมีต้นทุนที่คิดทั้งค่าแก๊ส ค่าน้ำ ค่าถุงกาแฟ ค่านม ค่าน้ำตาล ประมาณ 4 บาท ขาย 10 บาทก็จะมีกำไรขั้นต้น 6 บาทต่อถุง ถ้าขายได้เฉลี่ยวันละ 100 ถุง (จำนวนเฉลี่ยสูงกว่าเนื่องจากราคาขายต่ำ ขายเร็วและง่ายกว่า) เท่ากับเดือนนึงจะมีกำไรขั้นต้นประมาณ 18,000 บาท

พอหักค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อเดือนที่คำนวณข้างต้นแล้ว ก็จะมีรายได้ไม่น้อยกว่า 17,000 ต่อเดือน ภาษีก็ไม่เสีย เพราะไม่ต้องจดทะเบียนการค้า

ขายหมูปิ้ง ครึ่งวันกำไรหลักหมื่น

ไม่น่าเชื่อว่า หมูปิ้งที่เราทานกันทุกวี้ วันนี้ จะเป็นอาชีพสร้างรายได้ ให้กับเราได้เป็นกอบเป็นกำ เพียงคุณมี เวลา และสูตร ทำก็สร้างรายได้เสริมให้คุณได้แล้ว ในยุคที่เร่งเรียบอาหารที่ทำแล้วกินได้เลย ไม่ต้องใส่จานกินบนรถได้ หรือเดินกินไปได้อิ่มท้องด้วย สิ่งสำคัญคือทำเล และความอร่อย ทำเลต้องอยู่ทางคนทำงานเช้าๆผ่านบ่อย ไม่จำเป็นต้องมีรายประจำ ข้างทางยังได้เลย วันนี้นำเสนอเลยครับ อาชีพสร้างรายได้ ที่ทำแล้ว ทำดีทำอร่อย รายได้อาจเป็นหลักหมื่นต่อเดือนได้ครับ เรามาลองคำนวนกันดู 

"มีช่วงหนึ่งที่ผมทำงานอยู่ที่อาคารเล้าเป้งง้วนทาวเวอร์ ข้างๆตึกซันทาวเวอร์ตรงข้ามเซนต์จอร์น ตอนซื้อขาวเหนียวหมูปิ้งตอนเช้าก็ชวนแม่ค้าคุยเล่นพลางนับหมู่ที่ยังไม่ได้ปิ้งอยู่ในกล่องที่เค้าเตรียมไว้ดูว่ามีกี่ไม้ เลยถามเค้าว่าคุณป้าทำวันละกี่ไม้ครับเนี่ยขายดีจัง ตอนยื่นนับอยู่นับได้สามร้อยกว่าไม้ ป้าเค้าตอบว่าหมูปิ้งเค้าทำวันละ 500 ไม้ ขายหมดประมาณบ่ายสองโมงของทุกวัน แต่ป้าเค้าขายอย่างอื่นด้วยเช่นพวกไก่ย่างข้าวเหนียวนี่ก็ยังไม่ได้นับ ป้าเค้าบอกว่ากำไรครึ่งต่อครึ่ง เลยลองคูณดู หยุดเสาร์อาทิตย์เหลือเดือนละประมาณ 22 วัน x 500 เท่ากับเดือนละ 11,000 ไม้ ไม้ละ 5 บาท รวมเป็นเงิน 55,000 บาท กำไรครึ่งหนึ่งของยอดขาย ก็ได้ประมาณ 27,500 บาทต่อเดือน ในส่วนของหมูปิ้ง คุณป้าก็พูดอย่างภูมิใจว่า ลูกสาวคนที่ยืนช่วยขายอยู่ป้าส่งเรียนเซนต์จอร์น กำลังเรียนอยู่ นี่คนเล็ก ส่วนคนโตเรียนจบแล้วเซนต์จอร์นเหมือนกัน ผมคิดเอาเองนะว่าถ้ารวมทุกอย่างแล้วคุณป้าเค้าน่าจะได้กำไรสักประมาณเดือนละ 40,000 บาท"



อาชีพสร้างรายได้  สูตรการทำหมูปิ้ง แสนอร่อย
หมู และต้องที่มีมันแทรกอยู่พอสมควร(หรือบริเวณสันคอหมู) เพราะจะทำให้เนี้อหมูไม่แข็งเกินไปเวลาย่างแล้ว ใช้ประมาณ 5 กิโล
กระเทียมบดละเอียด ประมาณ ครึ่งขีด
พริกไทยป่น ประมาณ 1 ช้อนกินข้าว
รากผักชี บดละเอียด ประมาณ ครึ่งขีด
ซอสภูเขา ประมาณ 1 ถ้วย (ใช้ถ้วยน้ำพริก ตวงก็ได้นะ)
ซีอิ้วหวาน ประมาณ ครึ่ง ถ้วย
น้ำตาลทรายประมาณ ครึ่ง กิโล
น้ำตาลปิ้บ ประมาณ ครึ่ง กิโล
เกลือ ประมาณ 2 ช้อนกินข้าว

- วิธีทำ
เราก็เอาหมูใส่ในกระมัง แล้วเอาส่วนผสมทั้งหมดลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน คลุกเคล้าเบาๆ นะ อย่าไปขย้ำมันนะเดี๋ยวหมูจะเละ คลุกเคล้าประมาณ 30 นาที หลังจากนั้นก็เสียบไม้ให้เรียบร้อยแล้วเทใส่กล่องแช่ช่องฟิต เช้ามาก็เตรียมขายได้เลย
และอย่าลืม นึ่งข้าวเหนียวด้วยนะ การนึ่งข้าวเหนียวก็แค่ ต้องแช่ข้าวเหนียวก่อนประมาณ 10 ชั่วโมง แล้วเอามาค่อยนึ่งนะ

- คำนวนการลงทุน
หมู 5 กิโล โลละ 99 บาท (ถ้าได้ถูกกว่านั้นก็ดีนะ แต่อย่าเอาหมูแก่นะ) รวมเป็นเงิน 495 บาท
เครื่องปรุงทั้งหมด ประมาณ 200 บาท
ค่าถุง ค่าไม้เสียบ ค่าถ่าน ประมาณ 150 บาท
หมู 1 กิโล เสียบได้ประมาณ 100 ไม้ ไม่เกินนี้ ถ้า 5 กิโล ก็จะได้ 500 ไม้
ถ้าขายไม้ละ 3 บาท เท่ากับ 500 x 3 = 1,500 บาท
คิดกำไรหมูปิ้ง 500 ไม้ (ไม่รวมข้าวเหนียว) จะได้เท่ากับ 1,500 - 845 = 655 บาท นี่คือกำไรนะ